
เขียนโดย manager |
วันอังคารที่ 23 มีนาคม 2010 เวลา 08:23 |
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ในชีวิตประจำวัน.... |
เขียนโดย manager |
วันอังคารที่ 23 มีนาคม 2010 เวลา 08:23 |
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ในชีวิตประจำวัน.... |
1. ชื่อโครงการ
การแข่งขันเฟ้นหานักชงกาแฟ “Thailand Indy Barista Championship ครั้งที่
2. วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้พนักงานตระหนักถึงความสำคัญของการชงกาแฟอย่างถูกต้องตามมาตรฐานของการชงแบบเอสเพรสโซ่
2. เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาความรู้ความสามารถในฝีมือการชงกาแฟ
3. เพื่อสามารถทราบวิธีการใช้เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่ได้อย่างถูกต้อง
4. เพื่อให้มีความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกาแฟชนิดต่างๆ
5. เสริมสร้างให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
6. สร้างความภาคภูมิใจในตัวเองและองค์กร
7. พนักงานได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นซึ่งกันและกัน
8. เป็นการคัดเลือกตัวแทนการแข่งขัน
The Champ เพื่อเข้าอบรมการชงกาแฟ และการเข้าร่วมการแข่งขัน
3. กลุ่มเป้าหมาย
นักชงกาแฟอิสระ จากร้านกาแฟต่างๆ ทั่วทั้งประเทศไทย ( ภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ภาคตะวันออก, ภาค
กลาง และ ภาคใต้( ภาคละ 20 คน ) จำนวนทั้งสิ้น 100 คน
คลิ๊กเพื่อดูรายละเอียด
TOP 10 Boutique Hotels by AGODA 2009
นักท่องเที่ยวหน้าใหม่หลายๆ คนคงนึกสงสัยอยู่ในใจว่า... "โรงแรมบูติค" คืออะไร ? งานนี้ เรามีคำตอบให้แก่คุณครับ โดยทั่วไปแล้วโรงแรมบูติค ( หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า “ดีไซน์โฮเต็ล” ) มักจะเป็นโรงแรมขนาดค่อนข้างเล็ก ตามปกติจะมีห้องพักไม่เกิน 150 ห้อง ซึ่งช่วยให้ง่ายต่อการอำนวยความสะดวก และจัดหาบริการอย่างเป็นส่วนตัวได้ตรงกับความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้..ยังมีสไตล์ และการตกแต่งที่ เก๋ไก๋ ทันสมัย และเป็นเอกลักษณ์
ในปีนี้....นับเป็นปีที่สองแล้วที่ทางอโกด้าได้ทำการรีวิวโรงแรมบูติคในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค โดยเรามองว่าโรงแรมบูติคนับเป็นโรงแรมแนวใหม่ที่น่าสนใจ ทั้งยังได้ผสมผสานสไตล์และความมากประโยชน์ใช้สอยเข้าไว้ด้วยกันอย่างมีเสน่ห์และน่าดึงดูดใจ รวมถึงมุ่งให้ความสำคัญกับการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว ในปี 2009 นี้ อโกด้าได้นำมาตรฐานโรงแรมและคะแนนจากการรีวิวของลูกค้ามาเป็นส่วนหนึ่งในปัจจัยการพิจารณา โดยคัดเลือกเฉพาะโรงแรมระดับ 4-5 ดาวและมีห้องพักต่ำกว่า 200 ห้องเท่านั้น รายชื่อ 10 อันดับในปีนี้ มีทั้งหน้าเก่าที่คุ้นเคยกันดีจากปีที่แล้วและโรงแรมหน้าใหม่จาก ฮ่องกง สิงคโปร์ ซิดนีย์ เกียวโต และมาเลเซีย
ความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ของโรงแรมบูติคถือเป็นอะไรที่ไม่น่าแปลกใจสักเท่าใดนัก เพราะปัจจุบัน นักเดินทางต้องการสิ่งต่างๆ มากกว่าแค่ห้องพักธรรมดา พวกเขาคาดหวังถึงบริการชั้นเลิศ สิ่งอำนวยความสะดวกอันยอดเยี่ยม บรรยากาศที่มีเอกลักษณ์/สะดวกสบาย และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ ความสุขจากการเข้าพัก เอาล่ะ เกริ่นกันมาพอหอมปากหอมคอแล้ว ถึงเวลามาพบกับ 10 อันดับสุดยอดโรงแรมบูติคของเอเชีย แปซิฟิค ประจำปี 2009 กันได้เลย
1. โรงแรมตรีสรา ภูเก็ต ประเทศไทย
ตรีสราให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว ความเรียบง่าย ความสงบเงียบ และความกว้างขวาง ให้บริการบ้านพักและห้องสวีท 42 หลัง/ห้องที่มีความสะอาดและร่วมสมัย พร้อมด้วยกลิ่นอายแบบไทยๆ อีกทั้งยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวแบบไร้ขอบที่มองเห็นวิวอันตระการตาของทะเลอันดามัน นอกจากบริการนวด บอดี้ทรีทเมนท์ และบำรุงผิวหน้าแล้ว โรงแรมตรีสรายังเชี่ยวชาญในเรื่องโยคะและการทำสมาธิ โดยนำเสนอ “ตรีสรา พุนติ เพียวริฟิเคชั่น แอนด์ รีไวทาไลเซชั่น โปรแกรม” ร่วมกับผู้ชำนาญการด้านสมุนไพร จุดเด่นอื่นๆ ของรีสอร์ทแอนด์สปาหรูแห่งนี้ยังรวมถึง การมีไอพ็อดให้ใช้บริการฟรีในห้องสมุดพร้อมเพลงมากมาย การทานอาหารที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ และอ่าวส่วนตัวซึ่งรายล้อมไปด้วยแนวปะการัง
2. The Scarlet Hotel สิงคโปร์
โรงแรมที่เคยชนะรางวัลมาแล้วแห่งนี้ไม่ใช่หน้าใหม่ในรายชื่อท็อปเท็นของเรา ให้บริการห้องพักที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองในแต่ละห้อง ตั้งแต่ห้องแพชชั่น สวีทโทนสีแดงไปจนถึงห้องโอพูเลนท์ สวีทที่มีผนังสีมะกอกและหัวเตียงสีทอง นอกจากนี้ ยังมีภัตตาคารดีไซร์ที่เคยได้รับรางวัลและภัตตาคารบรีซบนชั้นหลังคาไว้คอยนำเสนอความอิ่มอร่อย พร้อมด้วยบาร์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวอย่าง ร้านโบลด์ รวมทั้งมีอ่างจาคุซซี่และยิม ซึ่งตั้งชื่อได้อย่างเหมาะเจาะว่า “โซดา แอนด์ ฟลอนท์” ไว้อำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย ที่สำคัญ สถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปด้านนอกของโรงแรมยังช่วยอำพรางสีสันสดใสและเฟอร์นิเจอร์ทันสมัยซึ่งรอแขกผู้เข้าพักอยู่ด้านใน โรงแรม Scarlet ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบความประทับใจให้แก่ลูกค้าทุกท่าน ดังจะเห็นได้จากบานประตูสีแดงและห้องพักที่แบ่งเป็นธีมสีต่างๆ ไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นยอดและห้องประชุมอันโดดเด่น
3. The Luxe Manor ฮ่องกง
The Luxe Maonr เป็นโรงแรมที่ใหญ่เป็นอันดับสองในการจัดอันดับของเรา โดยมีลักษณะคล้ายกับเกาะฮ่องกง ตรงที่มีความเป็นจีนดั้งเดิม แต่งแต้มด้วยกลิ่นอายตะวันตก พร้อมทั้งมีส่วนผสมที่น่าตื่นตาตื่นใจของความทันสมัยและความคลาสสิค ให้บริการห้องสวีทที่ได้รับการตกแต่งในธีมต่างๆ เช่น ห้องซาฟารี สวีทที่นำต้นแบบมาจากอุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ หรือ ห้องมิราจสวีทที่ดูจะได้รับแรงบันดาลใจจากภาพวาดของซัลวาดอร์ ดาลี่ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ที่นี่แตกต่างจากโรงแรมทั่วไปแห่งอื่นๆ นอกเหนือจากนั้น ยังมีห้องดีลักซ์ สวีทที่ตกแต่งอย่างเก๋ไก๋ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ทันสมัย เช่น โทรทัศน์จอแอลซีดีและความบันเทิงตามความต้องการ รวมถึงมีภัตตาคารที่ได้รับการประดับด้วยงานศิลปะบนฝาผนัง โดยเสิร์ฟอาหารรสเลิศจากฝีมือการปรุงของพ่อครัวชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกให้ได้ลิ้มลอง และด้วยช็อคโกแลตที่ส่งตรงถึงทุกห้องพักในยามค่ำคืน ก็ยิ่งทำให้การเข้าพักที่ The Luxe เป็นอะไรที่น่าอภิรมย์มากขึ้น
4. โรงแรมดรีม กรุงเทพ ประเทศไทย
โรงแรมดรีมเป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในรายชื่อ 10 อันดับ เนื่องจากมีการสร้างปีกตึกส่วนที่สองเพิ่มเติมขึ้นมา และด้วยส่วนผสมที่ลงตัวของการตกแต่งอันเก๋ไก๋ สีสันสดใส และบริการชั้นเลิศ จึงส่งผลให้โรงแรมแห่งนี้เลื่อนอันดับขึ้นมาจากปีที่แล้ว ห้องโถงสีครามอันหรูหราจะนำทางลูกค้าไปสู่ห้องพักสีขาวซึ่งแต่งแต้มด้วยไฮไลท์สีฟ้า พร้อมห้องน้ำที่ทันสมัย ขณะที่ในยามราตรี แสงไฟสีฟ้าที่ลอดออกมาจากใต้เตียงนอนจะอาบทั่วทั้งห้องให้ส่องสว่างด้วยบรรยากาศผ่อนคลาย นอกจากนี้ ยังมีผ้าปูที่นอนสไตล์อียิปต์ เตียงขนนก โทรทัศน์จอแบน และไอพ็อด ไว้รอให้คุณมาใช้บริการ หลังจากการนวดหน้าที่อวาทาร์ สปา หรือสนุกสนานยามค่ำคืนที่ร้านชื่อดังของกรุงเทพอย่าง ฟลาวา เลานจ์
5. Kirketon ซิดนีย์ ออสเตรเลีย
การปรับโฉมใหม่เมื่อไม่นานมานี้ช่วยให้โรงแรมขนาด 40 ห้องที่มีความเป็นกันเองแห่งนี้กลับขึ้นมายืนอยู่แถวหน้าของโรงแรมบูติดชั้นยอดของออสเตรเลียอีกครั้ง โดยเปลี่ยนจากดีไซน์แบบมินิมัลลิสต์ให้มีความเก๋ไก๋ทันสมัยมากขึ้นกว่าเดิม Kirketon เป็นโรงแรมที่หรูหราและมีความเป็นส่วนตัวสูง อีกทั้งยังอยู่ในเครือ Eight Hotels ของออสเตรเลียซึ่งเชี่ยวชาญในด้านตลาดโรงแรมบูติค โทนสีที่อบอุ่นและสดใสของที่นี่คอยต้อนรับลูกค้าสู่ห้องพักที่หรูหราและเป็นส่วนตัวในใจกลางของดาร์ลิงเฮิร์สท์ ซึ่งอยู่ติดกับย่านร้านอาหารและสถานบันเทิงยามราตรีของซิดนีย์ โรงแรม Kirketon โดดเด่นด้วยสไตล์และมีความภาคภูมิใจในเรื่องบริการ โดยมีพนักงานรูมเซอร์วิสที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของคุณตลอด 24 ชั่วโมง
6. The Screen Hotel เกียวโต ญี่ปุ่น
โรงแรม The Screen ให้บริการห้องพัก 13 ห้อง ซึ่งมีดีไซน์แตกต่างกัน 13 แบบ โดยผสมผสานสไตล์เรียวคังของญี่ปุ่นดั้งเดิมกับแนวคิดมินิมัลลิสต์ที่ทันสมัยเข้าไว้ด้วยกัน และในฐานะที่เป็นหนึ่งในโรงแรมบูติคแห่งแรกๆ ของเกียวโต จึงมีห้องพักที่ปูด้วยเสื่อทาทามิและกั้นด้วยโชจิไว้บริการหลายห้อง พร้อมด้วยห้องอื่นๆ ที่ตกแต่งในแนวตะวันตก ด้วยความมีสไตล์และความเอาใจใส่จนถึงรายละเอียด ทำให้โรงแรมแห่งนี้เหมาะจะใช้เป็นสถานที่สำหรับสัมผัสกับประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ขณะเดียวกัน ก็ดื่มด่ำกับความสะดวกสบายแบบตะวันตกไปพร้อมๆ กัน นอกเหนือจากนั้น ฝ่ายบริหารของโรงแรม The Screen ยังได้จัดเตรียมโทรทัศน์จอแบน เครื่องเสียง Bose เครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ่ในห้องสวีทบางห้อง และอาหารสไตล์ตะวันตกไว้อย่างพร้อมสรรพ เพื่อมอบความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าจากทุกประเทศ
7. The Majestic มะละกา มาเลเซีย
The Majestic คือ โรงแรมบูติคสไตล์โคโลเนียล ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมะละกา ในใจกลางมาเลเซีย โดยเป็นผู้ชนะรางวัล Hospitality Asia Platinum Award ในสาขา SE Asia’s Best Signature Boutique Hotel for 2008-2010 Regional Series ให้บริการห้องพักที่ตกแต่งอย่างสวยงาม 54 ห้อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานวัฒนธรรมที่หลากหลายของมาเลเซียในอดีต นอกจากนี้ สถาปัตยกรรมสไตล์เพอร์นากัน-ไชนีสที่แต่งแต้มด้วยกลิ่นอายของดัตช์ อังกฤษ และโปรตุเกสยังช่วยสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองและโอ่อ่า ห้องพักอันหรูหรา พร้อมด้วยพื้นพอร์ซเลน ขอบไม้สัก เฟอร์นิเจอร์หนัง อ่างอาบน้ำ เตียงสี่เสา และงานศิลปะอันวิจิตรกำลังรอแขกผู้เข้าพักอยู่ ณ ดินแดนมหัศจรรย์ของ The Majestic
8. JIA Shanghai Hotel เซี่ยงไฮ้ จีน
โรงแรมแห่งที่สองของ JIA มีความน่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้โรงแรมแห่งแรกที่เปิดในฮ่องกง และยังคงยึดแนวคิดดั้งเดิมของ Yenn Wong ในการสร้างสรรโรงแรมบูติคที่น่าสนใจ มีความหลากหลาย และมากประโยชน์ใช้สอย โรงแรมที่เคยได้รับรางวัลแห่งนี้ได้รับการปรับโฉมมาจากอาคารสไตล์ยุโรปในยุค 1920 ในใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ ให้บริการห้องพักอันเก๋ไก๋และมีสีสันสดใส โดยออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว คำว่า JIA ในภาษาจีนแมนดารินมีความหมายว่า “บ้าน” และแน่นอนว่าโรงแรมบูติค JIA Shanghai ประสบความสำเร็จในการสร้างบรรยากาศดังกล่าว เพียงแต่ว่าบ้านหลังนี้ออกจะเป็นสถานที่ๆ มีเสน่ห์อยู่อย่างมหาศาล
9. The Elysian Boutique Villa Hotel บาหลี อินโดนีเซีย
โรงแรมแห่งนี้มีบ้านพักส่วนตัวหรูหรา 26 หลังริมสระน้ำไว้คอยบริการแก่ลูกค้าทั้งในระยะยาวและระยะสั้น ตั้งอยู่ในสวรรค์เขตร้อนอย่าง เกาะบาหลีและเป็นโรงแรมบูติค “สไตล์รีสอร์ท” เพียงแห่งเดียวในรายชื่อของเรา โดยมีการออกแบบที่ถือว่าเป็น “เอเชียยุคใหม่” พร้อมดีไซน์แบบเปิดโล่ง บ้านพักแต่ละหลังตกแต่งด้วยไม้สักและหินจากภูเขาไฟ รวมทั้งมีสวนเป็นของตนเอง นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ระบบเครื่องเสียง Bose และไอพ็อด นาโนในบ้านพักทุกหลัง พร้อมด้วยมินิบาร์ที่บรรจุไว้ด้วยแชมเปญกับเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ซึ่งช่วยทำให้ที่นี่แตกแต่งจากโรงแรมแห่งอื่นๆ ในบาหลี Elysian คือ อีกหนึ่งคำที่มีความหมายว่า สวรรค์ และ The Elysian Boutique Villa ก็เป็นดั่งที่ชื่อได้บ่งบอกไว้
10. Amanjaya Pancam Hotel กรุงพนมเปญ กัมพูชา
โรงแรมหรู Amanjaya Pancam เป็นตัวเลือกชั้นยอดสำหรับผู้ที่เดินทางมายังเมืองหลวงของกัมพูชา สร้างขึ้นจากอาคารเก่าริมน้ำซึ่งมีกลิ่นอายของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ใน Sisowath Quay ติดกับวัดอุณาโลมในใจกลางกรุงพนมเปญ ให้บริการห้องพักที่มีขนาดกว้างขวางพร้อมเตียงขนาดคิงไซส์ โดยได้รับการตกแต่งอย่างอลังการในสไตล์เขมร นอกจากนี้ ทุกห้องยังมีอ่างอาบน้ำแยกต่างหากและตู้อาบน้ำ การเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวของพนมเปญ เช่น เจดีย์เงินและพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ได้อย่างสะดวกมีส่วนช่วยให้เราเลือกโรงแรมแห่งนี้เข้ามาอยู่ในท็อปเท็น
พยากรณ์ของเจ้าแม่กวนอิมโพธิสัตว์
ภัยพิบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ เป้นความเสียหายมหาศาลที่ไม่อาจคาดคะเนได้เลย
ภัยธรรมชาติในครั้งนี้ ทำให้เกิการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินนับไม่ถ้วน ภัยครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างเงียบสงบมาก
โดยไม่มีการเตือนให้รู้ตัวก่อนเลย ทุกสิ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่มีใครได้มีโอกาสตั้งตัว ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงอันตราย
ภัยครั้งนี้จะคร่าทุกชีวิตโดยไม่มีแบ่งแยกว่าจะรวยหรือจน ภายใน1ชั่วโมง ทุกสิ่งจะจมหายอยู่ใต้ท้องทะเล เวลาสั้นๆ
ไม่มีความช่วยเหลือ ไม่มีการเหลียวแลจากใครเลย เพราะทุกชีวิตล้วนแล้วแต่ดิ้นรนเอาตัวรอด เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
คาดว่าไม่เกินปี พ.ศ.2555 ไม่น่าคลาดเคลื่อนไปกว่านี้ ขึ้นอยู่กับว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นต้นปีหรือท้ายปีเท่านั้นเอง
ไม่มีเทพองค์ใดที่จะหยุดทุกสิ่งไม่ให้เกิดขึ้นได้ ทุกสิ่งถูกกำหนดไว้แล้วและมันกำลังจะเกิดขึ้น โดยฝีมือของมนุษย์นั่นเอง(ทำลายธรรมชาติ)
เพราะเหตตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ เนื่องจากเกาะภูเก็ตถูกทำลายไปมาก การก่อสร้างของเกาะภูเก็ตเป็นการทำลายรากฐาน
ซึ่งเป็นกนที่มีขนาดเล็ก มีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง9กิโลเมตรกำลังร้าวและแตกออกจากกัน อีกไม่นานมันก็จะหักและจมลงในทะเล
น้ำจะท่วม จะเกิดคลื่นยักษ์ที่ใหญ่ที่สุด น้ำจะซัดเข้าหาฝั่งเกือบทุกพื้นที่ของภาคใต้และจะจมหายอย่างถาวรตลอดกาล
ความเสียหายในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะเมืองไทยเท่านั้น ยังมีอีกหลายประเทศที่มีพื้นที่ติดทะเลจะจมหายหมด
เพราะฉะนั้นทุกคจึงควรเตรียมความ พร้อมนับแต่บัดนี้ และไปให้พ้นจากพื้นที่อันตรายให้เร็วที่สุด
อย่ามัวคิดว่ามันจะเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะไม่มีเวลาให้คิดแลว้ ให้ทำเลยถ้าจะทำอะไร โดยไม่ต้องสงสัย เพราะความสงสัยจะทำให้ไม่รอดจากภัยพิบัติครั้งนี้
การเตรียมความพร้อม
1.หาแหล่งที่อยู่ใหม่ที่ปลอดภัย (เมืองไทย ยกเว้นภาคใต้ หรือจังหวัดที่ติดทะเล)
2.เตรียมน้ำดื่มน้ำใช้ อย่างน้อย6เดือน
3.เตรียมอาหารแห้งและยารักษาโรค
4.เตรียมตะเกียง หรือเทียน ไฟฉายและถ่าน
5.เตรียมเครื่องนุ่งห่ม
6.เตรียมจิตใจให้เข้มแข็ง อย่ากลัว อย่าท้อ
การช่วยเหลือชีวิตมนุษย์เป็นการสร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่ ผู้ที่บอกต่อชีวิตไม่อับไม่จน ...
ขอให้ทุกคนมีจิตใจเมตตาปราณี ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเมื่อวิกฤติมาถึง...
ขอให้ลูกหลานทุกคนจงแคล้วคลาดจากภัยพิบัติในครั้งนี้ และจงมีแต่ความสุขความเจริญภายภาคหน้าตลอดไป...
*คำพยากรณ์ วันที่28 เมษายน 2555 เป็นวันมหันตภัย*
***ถ้าคุณไม่เชื่อก็ไม่ต้องส่งต่อเพราะมันไม่มีผลอะไรกับคุณ ไม่ได้มีคำสาปแช่งใดๆอยู่ในเมลล์นี้
เพียงแค่อยากให้คุณช่วยกันFWต่อเพื่อเป็นการเตือนภัยเท่านั้น
โรงแรมทั่วไทยอัดโปรโมชั่นมหกรรม "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ เซล แฟร์" ขายไม่อั้นห้องพักถูก ซื้อ 1 แถม 1 "ภาคเหนือ" ถล่มราคาเหลือแค่คืนละ 299 บาท คนไทยแย่งกันช็อปตุนไว้ใช้ช่วงปิดเทอมตุลาคม แบรนด์ 5 ดาวบนเกาะดังกระหน่ำลด หวังได้อานิสงส์ตั๋วโลว์คอสต์เสริมทัพตลาด
นางศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ ประธานคณะทำงานฝ่ายการตลาด สมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่า สมาชิกโรงแรมทั่วประเทศนำห้องพักเข้าร่วมขายซื้อ 1 แถม 1 ในงานอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ เซล แฟร์ 2553 ระหว่าง 29 กรกฎาคม-1 สิงหาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งเป้าเปิดหน้าร้านขายตรงกับตลาดคนไทยซื้อแพ็กเกจราคาประหยัดเก็บไว้ใช้เดินทางช่วงปิดเทอมยาวเดือนตุลาคมนี้
มหกรรมการซื้อขายห้องพักกลุ่มที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือ ภาคเหนือ โรงแรมหลายสิบแห่งอัดโปรโมชั่นแรงสุด มีห้องขายจำนวนไม่อั้นแถมลดราคาเหลือ 299 บาท/ห้อง/คืน เช่น โรงแรมแม่ปิง จากปกติมากกว่า 1,200 บาท/ห้อง/คืนขึ้นไป เปิดขายวันแรกลูกค้าเข้าคิวรอซื้อยาวเหยียด ส่วนโรงแรมในกรุงเทพฯและภาคอื่น ๆ ทำแคมเปญซื้อ 1 แถม 1 แบ่งราคาขายเป็น 8 กลุ่ม ได้แก่ 1,999 บาท/2,499 บาท/2,999 บาท/3,499 บาท/3,999 บาท/4,499 บาท/4,999 บาท และมากกว่า 4,999 บาท
ผู้ซื้อให้ความสนใจกระจายกันไป มีตั้งแต่ลูกค้าแบบประหยัดไปจนถึงไฮเอนด์ อย่างต่ำจะต้องมากกว่า 1,000 ห้องขึ้นไป ตั้งเป้าจะช่วยเสริมตลาดห้องพักช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวตลอด 3 เดือนนี้ มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยทั่วประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่ำ 15-20%
ส่วนแผนตลาดการขายต่อเนื่องจากอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ เซล แฟร์ ทางกรุงเทพมหานครพร้อมจะให้สมาคมโรงแรมไทยใช้พื้นที่บริเวณอาคารหอศิลป์ปทุมวัน จัดกิจกรรมโปรโมชั่น แต่ต้องหารือกับสมาชิกก่อนจึงจะสรุปได้ เพราะช่วงกันยายนนี้ต้องเข้าร่วมงานใหญ่ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัด "ไทยแลนด์ แทรเวล มาร์ต 2553" ซึ่งจะมีผู้ซื้อจากทั่วโลกเดินทางมาเจรจาธุรกิจกับผู้ขายอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
"ปี 2553 มีโรงแรมก่อสร้างแล้วเสร็จทยอยเปิดบริการเฉพาะในกรุงเทพฯ 5,000-8,000 ห้อง ตามจังหวัดท่องเที่ยว เช่น สมุย ภูเก็ต กระบี่ หัวหิน มีห้องพักใหม่เพิ่มขึ้นเช่นกัน สวนทางกับกำลังซื้อต่างประเทศลดน้อยลงเพราะปัจจัยลบการชุมนุมช่วง 5 เดือนแรก ทั้งโรงแรมท้องถิ่นและเชนต้องดิ้นหาทางรอดร่วมกับสมาคมโรงแรมไทยจัดโปรโมชั่นตลอดทุกเดือน จนเริ่มอิ่มตัวแล้ว" นางศุภวรรณกล่าว
สำหรับบรรยากาศการซื้อขายในงานอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ เซล แฟร์ ผู้ประกอบการสายการบิน โรงแรม ร้านอาหาร ของกินของใช้ ทำโปรโมชั่นลด 50-80% ซื้อ 1 แถม 1 แบบไม่จำกัดจำนวน เพื่อให้นำไปใช้ได้ตั้งแต่ 1 สิงหาคม-31 ตุลาคมนี้ แต่ละวันนักท่องเที่ยวคนไทย 5,000-10,000 คน ให้ความสนใจเลือกซื้อแพ็กเกจเก็บไว้ใช้ช่วงปิดเทอม ส่วนใหญ่เลือกสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ เช่น พัทยา หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มีเที่ยวบินตรงอย่างภูเก็ต สมุย
นางสาวถิรยา บุญสุวรรณ ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจ โรงแรมเครือแมริออท กล่าวว่า นำที่พักระดับไฮเอนด์ในเครือแบรนด์ เรเนสซองส์ เกาะสมุย รีสอร์ท แอนด์ สปา ทำโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 สำหรับ 2 คน จ่ายเพียง 7,000 บาท/คืนเท่านั้น เพราะตั้งเป้ากระตุ้นคนไทยใช้บริการเพิ่มขึ้นจากปกติมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 20%
นับเป็นครั้งที่สองของการนำโรงแรม 5 ดาว มาลดราคาจากปกติขายได้สบาย ๆ ต้องจ่ายคนละ 7,000-12,000 บาท/ห้อง/คืน เพื่อเอาใจคนไทยได้มีโอกาสไปเที่ยวสมุยได้ง่ายขึ้นด้วยค่าใช้จ่ายถูกลง เพราะเร็ว ๆ นี้นกแอร์ซึ่งเป็นโลว์คอสต์แอร์ไลน์ เตรียมเปิดบินตรงกรุงเทพฯ-สมุย ภายในงานจัดแคมเปญตั๋วราคาประหยัดวางขายเพียง 990 บาทถ้วน จะสามารถช่วยกระตุ้นตลาดได้ดีมาก
นางสาวปราณี นิกรวัฒนา ผู้จัดการฝ่ายขาย โรงแรมสยามเบย์ชอว์ พัทยา กล่าวว่า ช่วงเมษายนที่ผ่านมาอัตราการเข้าพักเฉลี่ยยังไม่ดีขึ้น จึงต้องเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว เริ่มหันมาสนใจวางกลยุทธ์รับตลาดไทยเข้ามาเสริมการใช้ห้องพักช่วงวันธรรมดา จันทร์-พฤหัสบดี ด้วยวิธีซื้อ 4 คืน แถมฟรี 1 คืน ราคา 2,900 บาทถ้วน/ห้อง/คืน ลูกค้าสามารถแยกใช้ห้องพักทั้ง 5 คืน เป็นครั้งละกี่วันก็ได้จนกว่าจะครบตามจำนวนที่ซื้อ
นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า มหกรรมอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ เซล แฟร์ มีแนวโน้มได้รับความสนใจจากคนไทยทั่วกรุงเข้าไปช็อปสินค้าภายในงาน รวมทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนคน สามารถสร้างรายได้ราว 150 ล้านบาท กระจายไปยังกลุ่มผู้ประกอบการทุกสาขาทั้ง 700 ราย ได้แก่ โรงแรม สายการบิน บริษัทจัดนำเที่ยว สปา บริการด้านสุขภาพ แฟชั่นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ ของแต่งงาน ของแต่งบ้าน สินค้าแบรนด์เนม อาหาร ผลไม้ไทย
การขายครั้งนี้นอกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศช่วงโลว์ซีซั่นระหว่างสิงหาคม-ตุลาคมแล้ว ยังจะช่วยสะท้อนภาพลักษณ์เชิงบวกของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคัก สร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวต่างประเทศสามารถเดินทางกลับมาอุดหนุนเมืองไทย ใช้ชีวิตตลอดการพักผ่อนด้วยความสนุกสนานได้ปกติเหมือนเดิม